Check in @ Shizuoka
ประสบการณ์จากคุณ : สมาชิกหมายเลข 719864
ฟูจิซังไงคะ
พลาดได้ไง ว่าแต่ไปแถวไหนของ shizuoka ล่ะคะ ทำไมมีไป yaizu
fish market ด้วย ถ้าพักแค่คืนเดียวแล้วอยากเห็นฟูจิซัง ก็ไปแถว nihondaira
ก็ได้ มีศาลเจ้าอยู่บนนั้น ลงมากินสตรอเบอรรี่
แล้วไปเดินเล่นชายหาดที่ miho ถ้าอากาศดีก็จะเห็นฟูจิซังตัดกับหาดสีดำ
หรือถ้าอยู่แค่ในเมืองก็ไปเที่ยวปราสาทเก่าของตระกูล Tokugawa ก็ได้ มีสวนสาธารณะให้เดินเล่น อีกด้านมี tea house ให้เข้าไปชิมชากับชมสวนญี่ปุ่น
เดินออกมาชอปปิ้งข้างนอก ผ่านถนนชอปปิ้งสายเก่าของเมืองไปทางศาลเจ้า แวะดูรูปปั้น
ออกญาเสนาภิมุข ไปไหว้ศาลเจ้า แล้วจะไปเดินเล่นบนเขาหลังศาลเจ้าก็ได้
ถ้ามีเวลาเยอะกว่านั้นก็ไป izu โลดค่ะ มีที่เที่ยวเยอะมาก
อย่าลืมชิมชากับส้มนะคะ ของดังประจำเมืองค่ะ
ประสบการณ์จากคุณ : สมาชิกหมายเลข 719864
Yaizu
เป็นแหล่งปลาทูน่าใหญ่มากของญี่ปุ่น แต่เป็นเมืองเล็กมากค่ะ
ไม่มีอะไรเลย ก็เลยสงสัยว่าทำไมมีโปรแกรมไป Yaizu ด้วย
ไม่แน่ใจว่ามีเวลาเท่าไหร่ แต่คุณพักอยู่ใจกลางเมืองเลย เดินไป Sumpu park ที่เคยเป็นที่ตั้งปราสาทเก่าของตระกูล Tokugawa ก็ไม่ไกลค่ะ
ถ้าเดินผ่าน Sengen dori ไปศาลเจ้าในเมืองที่ชื่อ Sengen
shrine ก็จะเห็นรูปปั้นของ ออกญาเสนาภิมุข ค่ะ ใช้เวลาไม่มาก
น่าจะเดินเที่ยวหมดค่ะ แต่ถ้ามีเวลามากกว่านั้น
ไปเที่ยวนอกเมืองก็จะได้อีกบรรยากาศนะคะ
ประสบการณ์จากคุณ : realp**
Hamanako
- Yamaha museum
- แหลม Izu
ประสบการณ์จากคุณ : tukkui
ที่
Nihondaira
เวลาฟ้าเปิดเห็นฟูจิซังสวยนะคะ
มีRopeway ข้ามไปที่อีกฝั่งเป็นศาลเจ้าชินโต Kuno san ฝั่งนี้เห็นวิวมหาสมุทรแปซิฟิค
เวลารถแล่นลงจากนิฮงไดระเห็นไร่ชาเขียวเป็นแนวๆ
สวยดีค่ะ
ประสบการณ์จากคุณ : สมาชิกหมายเลข 705438
เมือง
shizuoka
เป็นเมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโตเกียว (เมืองหลวงใหม่) กับ
เกียวโต (เมืองหลวงเก่า) เวลาโชกุนเดินทางจากเกียวโตจะมาโตเกียว
จะต้องแวะพักกลางทางที่เมืองนี้ ลักษณะที่ตั้งเป็นทะเลด้านหน้า ภูเขาด้านหลัง
จึงมีภูมิอากาศที่เหมาะกับการปลูกชา
ชาเขียวที่นี่เป็นชาที่มีรสชาติดีที่สุดของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเองก็อยากอยู่เมืองนี้เพราะหน้าหนาวอากาศไม่หนาวมาก
หน้าร้อนก็ไม่ร้อนมาก
ในตัวเมืองที่น่าไปชมคือ
ศาลเจ้าใหญ่ของเมืองนี้ ถนนที่จะเข้าไปจะมีรูปปั้นครึ่งตัวของ ยามาดะ นางามาซะ
หรือออกญาเสนาภิมุข ที่เข้ามารับราชการในสม้ยสมเด็จพระนารายณ์อยู่ ขนาดไม่ใหญ่นัก
ตั้งริมถนนด้านซ้ายมือก่อนไปถึงศาลเจ้า
เมื่อขึ้นไปบริเวณศาลเจ้าจะเป็นเนินเขาที่มองมาเห็นตัวเมือง
กลางเมืองมีสวนสาธารณะ
Sumpu
ข้างในสวนสาธารณะมีปราสาท Sumpu และในบริเวณใกล้
ๆ กันมีสวนญี่ปุ่นสวยงามมากค่ะ มีสะพานไม้ที่ไม่ได้เป็นเส้นตรง
แต่จะวางแผ่นไม้สลับไปมาสำหรับซามูไรวิ่งเวลามีการรบกัน
ด้านหลังสวนญี่ปุ่นเป็นกระท่อมที่เขาทำพิธีชงชาญี่ปุ่น
จากปราสาทนี้
เดินต่อไปอีกหน่อย สักสิบนาที ก็เป็นใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และสถานีรถเมล์ รถไฟ ต่อรถไปนิฮอนไดระได้
ที่นิฮอนไดระเป็นเนินเขาซึ่งมองออกไปเห็นฟูจิซัง รอบ ๆ เป็นไร่ชา
ถ้าไม่มีเวลามากพอที่จะไปนิฮอนไดระ
สามารถดูฟูจิซังได้จากตัวเมือง ให้ไปที่มหาวิทยาลัย Shizuoka (ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยนี้เป็นรูปฟูจิซังอยู่ในวงกลม)
ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ แถวนั้นจะมีไร่ชา (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ถูกตัดทิ้ง
ทำเป็นหอพัก นศ.หมดแล้วหรือยัง) และมองเห็นฟูจิซัง
ถ่ายรูปก็จะได้บรรยากาศคล้ายรูปใน คห.1 เพียงแต่จะมีหลังคาบ้านคนแถวนั้นติดมาด้วย
แต่ถ้าเวลามากพอ
(ประมาณครึ่งวัน) แล้วอยากเดิน trek ก็ทำได้ โดยเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัย
Shizuoka เดินไปตามถนนเล็ก ๆ ด้านหลังมหาวิทยาลัย จะเจอศาลเจ้าขนาดเล็ก
ที่มีต้นไม้อายุหลายร้อยปี เดินตามถนนเล็ก ๆ นี้ไปเรื่อย ๆ
จะไปผ่านไร่ชาเขียวตามเส้นทาง ไร่สตรอเบอรี่ และไร่ผลไม้ต่าง ๆ เช่น ลูกพลับ
เส้นทางก็จะเล็กลงจนเข้าไปในป่าไม้ไผ่ (ไผ่ต้นใหญ่ ๆ แบบญี่ปุ่น)
ข้างในป่าไผ่จะมีทางเดินเป็นขั้นบันไดไว้ให้เดินไปได้เรื่อย ๆ
แล้วจะผ่านศาลเจ้าอีกแห่งสร้างคล้ายตึกหลังย่อม ๆ อีกสักพักก็จะไปถึงนิฮอนไดระ
ทั้งหมดใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม.
ขากลับก็นั่งรถเมล์กลับเข้าเมือง
ส่วน
tea
museum ต้องนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟออกไปอีกประมาณ 40 นาที
แล้วก็เดินต่ออีกนิด ถ้าอยากเข้าร่วมพิธีชงชาและดื่มชาญี่ปุ่นก็ต้องซื้อบัตรเข้าร่วมพิธี
พิธีจะจัดในบ้านญี่ปุ่นที่ประตูเล็ก ๆ
เขาบอกว่าคนสมัยโบราณถ้าพกอาวุธที่เป็นดาบยาวมาจะไม่สามารถก้มตัวเข้าไปได้
ขอให้สนุกกับการเที่ยวเมืองนี้ค่ะ
ของฝากที่น่าซื้อคือชาเขียว
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip ภาพจาก Internet